
https://xwcb.gxu.edu.cn/English/Home.htm
ภาพรวมของคณะ
การศึกษาด้านวารสารศาสตร์และการสื่อสารที่มหาวิทยาลัยกว่างซีเริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1972เป็นหนึ่งในสี่สถาบันแรกๆ ของจีนที่รับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวารสารศาสตร์ ในปีค.ศ. 1986 ได้รับสิทธิการมอบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาสื่อสาร ในขณะนั้น สาขานี้มีปริญญาโทเพียง 5 สาขาในประเทศจีน ในปี ค.ศ.2008 คณะวารสารศาสตร์และการสื่อสารได้ก่อตั้งขึ้นแยกจากคณะวัฒนธรรมและการสื่อสาร โดยได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่อาคารคณะวารสารศาสตร์ในปีค.ศ. 2015 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นคณะวารสารศาสตร์และการสื่อสารในเดือนธันวาคม ปีค.ศ.2018
ปัจจุบัน คณะมีสาขาวิชาระดับปริญญาตรี 4 สาขาวิชา ได้แก่ วิชาวารสารศาสตร์ วิชาวิทยุและโทรทัศน์ วิชาการโฆษณา และการแพร่ภาพกระจายเสียงและการโฮสต์ศิลปะ คณะมีสิทธิ์ที่จะมอบปริญญาโทระดับแรกในสาขาวิชาวารสารศาสตร์และการสื่อสาร และสาขาวิชาเอกระดับ ที่2 อีก 4 สาขาวิชา ได้แก่ วารสารศาสตร์ การสื่อสาร การสื่อสารในด้านเศรษฐกิจ และการโฆษณา มีหลักสูตรปริญญาโทสาขาวารสารศาสตร์และการสื่อสาร สาขาวิชาวารสารศาสตร์เป็นหนึ่งในชุดแรกของ "สาขาวิชาเฉพาะระดับชาติ" สาขาวิชาวารสารศาสตร์และสาขาวิชากระจายเสียงและเป็นเจ้าภาพศิลปะเป็นสาขาปริญญาตรีระดับแรกของชาติ และสาขาวิชาโฆษณา วิทยุและโทรทัศน์เป็น สาขาปริญญาตรีระดับแรกของเขตปกครองตนเอง คณะได้รับรางวัล“ Advanced Collective” สำหรับงานที่โดดเด่นด้านการประชาสัมพันธ์ด้านอุดมการณ์และวัฒนธรรมตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2018และในเดือนมีนาคม ปี2019 คณะก็กลายเป็นคณะนำร่องชุดที่ 2สำหรับการปฏิรูปแบบครอบคลุม ของกระทรวงการศึกษา ในปี 2020ได้เป็นสถานที่ประกาศนำร่องของรางวัล "ไชน่านิวส์ อวอร์ด" และเป็นสถานที่ส่งข่าวโดยตรงของกระทรวงการโฆษณารัฐกลาง
ปัจจุบันมีคณาจารย์และเจ้าหน้าที่จำนวน 50 คน รวมทั้งอาจารย์ประจำ 32 คน (มีอาจารย์ประจำที่มีตำแหน่งวิชาการระดับศาสตราจารย์9 คน คิดเป็น 28.1%; รองศาสตราจารย์ 15 คน คิดเป็น 46.9%; ผู้ได้รับปริญญาเอก 23 คน คิดเป็น 71.9%) และมีอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาปริญญาโททั้งหมด 26 คน มีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 900 คนและนักศึกษาปริญญาโทมากกว่า 250 คน
2. ลักษณะของสาขา คณะได้จัดตั้ง "วิทยาลัยหนึ่งแห่งและศูนย์สี่แห่ง" โดยมีสถาบันวารสารศาสตร์และการสื่อสารเป็นผู้นำ มีศูนย์วิจัยสี่แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยแนวคิดวารสารศาสตร์มาร์กซิสต์ ศูนย์สื่ออาเซียนและการวิจัยการสื่อสารระดับภูมิภาคจีน-อาเซียน ศูนย์วิจัยการสื่อสารวัฒนธรรมของสัญชาติกว่างซีและศูนย์วิจัยการสื่อสารสภาพภูมิอากาศและสุขภาพสอดคล้องกับทิศทางสาขาทั้งสี่ของคณะและสร้างลักษณะของสาขา
3.การอบรมผู้มีความสามารถ
รูปแบบ“การบูรณาการการเมือง วิสาหกิจและการศึกษา”ที่การฝึกอบรมผู้มีความสามารถพิเศษของคณะมีการพัฒนาเรื่อยๆ และได้ฝึกอบรมนักศึกษาระดับปริญญาตรีมากกว่า 5,000 คน และนักศึกษาระดับปริญญาโทมากกว่า 1,700 คน ศิษย์เก่าบางคนได้เป็นผู้นำของสื่อหลักทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค และความสามารถด้านสื่อสารและความสามารถเชิงปฏิบัติของผู้สำเร็จการศึกษาได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรม นักศึกษาประสบความสำเร็จหลายครั้งในการแข่งขันศิลปะการโฆษณาของนักศึกษาวิทยาลัยแห่งชาติ ในช่วงสามปีที่ผ่านมาได้รับรางวัลระดับมณฑลขึ้นไปและรางวัลอื่นๆมากกว่า 100 รางวัล
4:การศึกษาบูรณาการระหว่างกระทรวงและมหาวิทยาลัย
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ปี2014 กรมโฆษณาการพรรคของเขตปกครองตนเองกว่างซีและมหาวิทยาลัยกว่างซีได้ลงนามในสัญญาเกี่ยวกับการสร้างคณะวารสารศาสตร์และการสื่อสารร่วมกัน โดยมีประเด็น5ประเด็นในการสร้าง ได้แก่ องค์กรการจัดการ หลักสูตรที่มีคุณภาพดี ทีมงานที่มีความสามารถ ฐานปฏิบัติและคลังปัญญาการวิจัย หลังจากการปฎิบัติ คุณภาพของการศึกษามุมมองวารสารของมาร์กซิสต์ได้รับการปรับปรุง และรูปแบบนี้ได้เผยแพร่ไปยังมหาวิทยาลัย 15 แห่งที่มีคณะวารสารศาสตร์และการสื่อสารในมณฑลกว่างซี ซึ่งบรรลุความครอบคลุมเต็มรูปแบบของการก่อสร้างร่วม
หลักสูตรการศึกษาที่ยอดเยี่ยม—ตามทันวิสาหกิจการวารสาร โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างหลักสูตรคุณภาพสูงร่วมกัน ได้เปิดหลักสูตร 13 หลักสูตรร่วมกันซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาล่าสุดทางวิชาการและมีการใกล้ชิดกับการปฏิบัติ เช่นหลักสูตร "ความคิดวารสารศาสตร์มาร์กซิสต์" และ "ความรู้ทั่วไปของประเทศ"
การอ่านหนังสืออย่างเปิดกว้าง——การสร้างมุมมองวารสารมาร์กซิสต์ คณะดำเนินกิจกรรมต่างๆเช่น"กิจกรรมการสอนการอ่านแบบเปิด" ให้สร้างเป็นหลักสูตรจำเป็นและรวมอยู่ในแผนการฝึกอบรม เพื่ออ่านผลงานต้นฉบับ เรียนรู้ตำราต้นฉบับ และทำความเข้าใจหลักการ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการอ่านในชั้นเรียน การกล่าวปาฐกถาพิเศษ การประเมินผลการอ่าน การแข่งขันทักษะทางวิชาชีพ การจัดกลุ่มการอ่านต้นฉบับ และการทบสอบออนไลน์ที่เกี่ยวกับมุมมองวารสารมาร์กซิสต์ กิจกรรมเหล่านี้ให้นักศึกษาได้รับการศึกษาตามรูปแบบที่ชอบฟัง และบรรลุการศึกษามุมมองวารสารมาร์กซิสต์มีการด้วยหลักสูตรการอ่านแบบเปิด เนื้อหาการสอนแบบเปิด และการประเมินผลแบบเปิด
การฝึกอบรมร่วมกัน - ร่วมกันสร้างฐานปฏิบัติการทดลอง นับตั้งแต่การสร้างร่วมกัน ได้มีการสร้างอาคารคณะวารสารที่มีพื้นที่ 23,000 ตารางเมตร และทุ่มงบ 33 ล้านหยวนเพื่อสร้าง "ศูนย์สาธิตการสอนทดลองสื่อระดับเขตปกครองตนเอง" ซึ่งประกอบด้วยศูนย์สื่อบูรณาการ Media Interactive Studio Center และศูนย์การสอนทดลองการถ่ายภาพและวีดิทัศน์ ห้องปฏิบัติการสื่อหนังสือพิมพ์และวารสาร และห้องปฏิบัติวิทยุและโทรทัศน์ทั้งหมด12แห่งที่ทันสมัย ได้รับการอนุมัติให้มีฐานปฏิบัติงานนอกมหาวิทยาลัยระดับชาติหนึ่งแห่งสำหรับนักศึกษา และแพลตฟอร์มการศึกษาร่วมระดับเขตปกครองด้วยตัวเองหนึ่งแห่ง และได้จัดตั้งฐานการจ้างงานนอกมหาวิทยาลัย 12 แห่งในสื่อหลัก
การสร้างคลังปัญญาร่วมกัน-ระดับของสาขามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
คณะเคยเป็นฐานการฝึกอบรมผู้มีความสามารถพิเศษในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝ่ายบริหารทั่วไปด้านการสื่อและสิ่งพิมพ์ฐานการวิจัยและปฏิบัติมุมมองวารสารมาร์กซิสต์ของกว่างซีและฐานการฝึกอบรมผู้มีความสามารถพิเศษในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมจีน-อาเซียน (การสื่อ) ได้เข้ามาตั้งในคณะอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของคณะได้รับรางวัลโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติทั้งหมด 13 โครงการ ซึ่งรวมถึงโครงการระดับชาติ 8 โครงการที่เกี่ยวกับการวิจัยการสื่อสารระดับภูมิภาคจีน-อาเซียน นอกจากนี้ ยังมีโครงการ124โครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้รับรางวัลระดับมณฑล ระดับท้องถิ่นและระดับโรงเรียน และมีการตีพิมพ์หนังสือเฉพาะมากกว่า 10 ฉบับ ในบรรดาโครงการเหล่านั้น ในปี 2017 โครงการ "การสำการปฏิบัติของการบูรณาการเชิงลึกระหว่างกระทรวงและมหาวิทยาลัยเพื่อปลูกฝังผู้ความสามารถในด้านวารสารศาสตร์ร่วมกัน" ได้รับรางวัลที่หนึ่งในผลการสอนระดับเขตปกครองตนเองกว่างซี ในปี 2019 คณบดีในขณะนั้น ศาสตราจารย์ เจิ้ง เป่าเว่ย ได้รับโครงการสำคัญของกองทุนสังคมศาสตร์แห่งชาติ 2โครงการ ได้แก่"การวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายข่าวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงศตวรรษ (ค.ศ. 1921-2021)" และโครง " การวางยุทธ์ศาสตร์การดำเนินการและวิธีการปฎิบัติของการสื่อสารสภาพภูมิอากาศในประเทศตามแนวคิดการก่อสร้างอารยธรรมนิเวศน์และแนวคิดการพัฒนาสีเขียว"
5. จุดเด่นและลัก
(1) การบูรณาการเชิงลึกระหว่างกระทรวงและมหาวิทยาลัย การศึกษาบูรณาการร่วมกันระหว่างการเมือง วิสาหกิจแลการวิจัย จากการจัดตั้งระบบอิสระของคณะการก่อสร้างอาคารคณะ การก่อสร้างห้องปฏิบัติการไปจนถึงการจัดตั้งหลักสูตรร่วมกัน การแลกเปลี่ยนบุคลากร การจัดตั้งแพลตฟอร์มปฏิบัติ ฯลฯ กระทรวงและมหาวิทยาลัยมีการเข้าร่วมและบูรณาการอย่างลึกซึ้ง ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ในการศึกษาร่วมกัน
(2) การปฏิรูป “การศึกษาทั้ง 3 ประการ” และความก้าวหน้าที่มั่นคงในการก่อสร้างนำร่อง คณะดำเนินการ "แผนปฏิบัติการห้าปี" เพื่อมอบผู้มีความสามารถด้านสื่อสารแก่พรรคและประชาชน ด้วยแนวทางของแนวคิดมาร์กซิสต์ในเรื่องการสื่อสารมวลชน คนที่มีการศึกษา และการทบทวนสื่อทั้งหมด เราสำรวจองค์ประกอบทางการศึกษาและตรรกะทางการศึกษาที่มีอยู่ในงานแต่ละชิ้นอย่างครบถ้วน และรวมเข้ากับการออกแบบระบบโดยรวมและการเชื่อมโยงการปฏิบัติงานเฉพาะเป็นข้อกำหนดด้านความรับผิดชอบและเนื้อหาการประเมินเพื่อ สร้างหลักสูตรสาธิตการศึกษาหลักสูตรวิชาชีพสร้างระบบการศึกษาสำหรับนักสื่อสารมวลชนและการสื่อสารที่โดดเด่น
(3) จัดทำหนังสือวารสารอย่างดีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาสาขาวิชาของคณะ คณะจัดทำหนังสือวารสารวิชาการ "วัฒนธรรมและการสื่อสาร" ซึ่งมีคอลัมน์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการสื่อสาร วัฒนธรรมและการสื่อสารต่อต้านสงครามการสื่อสารวัฒนธรรมมวลชน และวัฒนธรรมการโฆษณาและการสื่อสาร คณะปรับปรุงคุณภาพของวารสารและสนับสนุนการพัฒนาสาขาวิชา
(4)มีอิทธิพลที่กว้างใหญ่และใช้เป็นตัวอย่าง แนวปฏิบัติและประสบการณ์ของคณะในการร่วมสร้างกันและ "การศึกษาทั้ง3ประการ" ได้รับการนำเสนอและประกาศในสื่อระดับชาติและระดับมณฑลหลายแห่ง เช่น "การสื่อสารการเรียนรู้สามประการ" “ข่าวประจำวันกวางหมิง”และเวปไซต์หลืนหมินของ ได้รับรโครงการนวัตกรรมการปฏิรูปการสอนวารสารศาสตร์และการสื่อสารของจีนถึงสามโครงการ มีมากกว่า 50 กลุ่มจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเยี่ยมชมคณะ แสดงบทบาทผู้นำในด้านการศึกษาด้านวารสารศาสตร์และการสื่อสารในภูมิภาค ประเทศ และประเทศในกลุ่มอาเซียน
6. ความปรารถนาของคณะ คณะยึดมั่นที่ถือการปรับปรุงคุณภาพการอบรมผู้มีความสามารถเป็นแกน ยืนกรานที่จะปรับปรุงคุณภ โดยสร้างสาขาวิชาเป็นต้นฐใช้การสร้างบรรใดสาขาเป็นกุญแจสำคัญ การปลูกฝังผู้มีความสามารถเป็นรากฐาน การปฏิรูปและนวัตกรรมมาเป็นแรงผลักดัน และสืบทอดคำขวัญของคณะ "รักษาความซื่อสัตย์และสร้างสรรค์นวัตกรรม แสวงหาความจริง และถ่ายทอดความงดงาม" อาจารย์ควร ถือ"ทะเยอทะยาน สงบ มีความรู้ และเป็นมืออาชีพ" และนักศึกษาควรถือ "สร้างจิตวิญญาณ สร้างแรงบันดาลใจ ขยันหมั่นเพียรในการเรียนรู้ และศึกษาซ้ำ"